Oppo จดสิทธิบัตรสมาร์ทโฟนด้วยเทคโนโลยี Li-Fi

Oppo จดสิทธิบัตรสมาร์ทโฟนด้วยเทคโนโลยี Li-Fi
ขณะนี้ Wi-Fi กลายเป็นส่วนสำคัญของสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ และถูกต้องแล้ว เพราะมันรวดเร็ว ประหยัดแบตเตอรี่ และเชื่อถือได้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีบางอย่างที่เร็วกว่าและถูกกว่าล่ะ? เข้าสู่ Li-Fi ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลคล้าย Wi-Fi ที่ใช้ไฟ LED เป็นสื่อกลาง และ Oppo กำลังเป็นผู้นำด้วยการจดสิทธิบัตรสมาร์ทโฟนเครื่องแรกด้วยเทคโนโลยีนี้ สิทธิบัตรที่ LetsGoDigital ตรวจพบ แสดงภาพของเซ็นเซอร์ที่วางอยู่บนสมาร์ทโฟน Oppo ต่างจาก Wi-Fi ตรงที่โมดูล Li-Fi (เครื่องตรวจจับแสง) ค่อนข้างมองเห็นได้จากด้านนอกของโทรศัพท์ นี่เป็นสิ่งจำเป็นเพราะโฟตอนของแสงจะต้องถูกแปลงเป็นกระแส รูปภาพแสดงตำแหน่งที่เป็นไปได้ของโมดูล ควรสังเกตว่าในเวลานั้นนี่เป็นเพียงสิทธิบัตรเท่านั้น และเช่นเดียวกับสิทธิบัตรทั้งหมด มันไม่สามารถมองเห็นแสงสว่างในตอนกลางวันได้

(เครดิตรูปภาพ: LetsGoDigital)

Li-Fi: ข้อดีและข้อเสีย

นอกจากนี้ Li-Fi ยังมีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง ในด้านหนึ่งมันเร็วกว่า Wi-Fi มาก เร็วกว่าหลายเท่า สามารถส่งข้อมูลที่ 100 Mbps และในบางกรณี 10 Gbps ประการที่สอง อัตราการใช้คลื่นความถี่ Wi-Fi เพิ่มขึ้นทุกวัน เนื่องจากเป็นสื่อคลื่นวิทยุเพียงชนิดเดียวนอกเหนือจาก LTE Li-Fi สามารถใช้เพื่อตอบสนองความต้องการข้อมูลไร้สายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความจุในการส่งข้อมูลที่สูงขึ้นมาก ยังถือว่าประหยัดพลังงานมากกว่าเนื่องจากใช้ไฟ LED ในการส่งข้อมูลและไม่มีการรบกวน สำหรับข้อเสีย หนึ่งในข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดคือความน่าเชื่อถือในด้านแสง โดยเฉพาะหลอดไฟ LED ซึ่งหมายความว่าห้องมืดที่ไม่มีแหล่งกำเนิดแสง LED จะถูกตัดการเชื่อมต่อจากอินเทอร์เน็ต ข้อเสียเปรียบใหญ่ประการถัดไปคือความพร้อมใช้งานที่จำกัด เนื่องจากแสงไม่สามารถทะลุผนังได้ ระยะที่จำกัดอาจสร้างความรำคาญให้กับบางคน สำหรับบางคน สิ่งนี้อาจดีต่อความปลอดภัย เป็นที่น่าสังเกตว่า Li-Fi นั้นไม่มีอะไรใหม่ มีการสาธิตในปี 2012 แต่ไม่เคยถูกนำมาใช้เป็นเทคโนโลยีกระแสหลัก นั่นอาจเปลี่ยนแปลงได้หากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจำนวนมากขึ้นกระโดดเข้ามาในกลุ่ม